AFP แจงภาพ ‘ประยุทธ์’ ไม่ยกมือขวา ไม่ใช่เพราะ ฟังภาษาอังกฤษไม่ออก

AFP แจงภาพ ‘ประยุทธ์’ ไม่ยกมือขวา ไม่ใช่เพราะ ฟังภาษาอังกฤษไม่ออก

AFP สำนักข่าวต่างประเทศ แจงภาพ ประยุทธ์ ไม่ยกมือขวา ไม่ใช่เพราะ ฟังภาษาอังกฤษไม่ออก ชี้มีผู้นำคนอื่นไม่ยกมือขึ้นเหมือนกัน สำนักข่าว AFP สำนักข่าวฝรั่งเศสที่มีบริการตรวจสอบเฟคนิวส์ได้ออกมาชี้แจง หลังจากที่มีชาวเน็ตได้โพสต์ภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ที่เข้าร่วมการประชุม APEC ครั้งที่ 29 ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เมื่อปี พ.ศ. 2560

โดยกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นหลังจากที่ 

นักข่าวบอกให้ยกมือ ซึ่งผู้นำประเทศอื่น ๆ ที่ยืนรอบข้าง พล.อ ประยุทธ์ ยกมือกันหมด ยกเว้น พล.อ ประยุทธ์ ที่ไม่ยกมือคนเดียว จึงมองว่าน่าจะฟังภาษาอังกฤษไม่ออก ซึ่งสำนักข่าว AFP ระบุว่า เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิด เพราะเมื่อไปค้นหารูปภาพต้นฉบับย้อนหลังในกูเกิล พบว่าภาพที่เผยแพร่ดังกล่าว เป็นภาพที่ถูกตัดออกไป โดยภาพเต็ม ๆ จากสำนักข่าว YONHAP NEWS ของเกาหลีใต้ พบว่า ไม่ใช่ พล.อ ประยุทธ์ เพียงคนเดียวที่ไม่ยกมือ แต่ จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์, นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา และนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ก็ไม่ได้ยกมือเช่นกัน

ธนกร ยืนยัน ประยุทธ์พูดภาษาอังกฤษ ได้ หลังจากมีชาวเน็ตโพสต์ภาพจากการประชุม APEC ปี 60 ชี้เป็นภาพบิดเบือน เตือนอย่าโจมตีนายกฯ นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการนำภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ช่วงเวลาระหว่างการถ่ายภาพร่วมกันของผู้นำประเทศต่างๆ ในระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค เมื่อปี 2560 ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นภาพตัด (crop) มาเผยแพร่และบิดเบือนความจริงว่า นายกรัฐมนตรีไทยไม่เข้าใจ และไม่ปฏิบัติตามคำพูดของช่างภาพว่า เป็นการบิดเบือนความจริงเพื่อโจมตีนายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนตรวจสอบจากภาพเต็มที่ไม่ได้มีการตัดภาพผู้นำท่านอื่นๆ

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรีของไทยได้ร่วมโบกมือพร้อมกับผู้นำท่านอื่นๆ ด้วย เพียงแต่ในช่วงท้ายผู้นำหลายท่านได้ลดมือลงกันแล้ว จึงดูเหมือนว่ามีผู้นำหลายท่านที่ไม่ได้ยกมือขึ้น อาทิ นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์, นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา และนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย

นายธนกร กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนรับข่าวสารอย่างมีสติ รอบคอบ ตรวจสอบแหล่งข่าว รวมทั้งรับข่าวสารจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ หากได้ดูคลิปวิดีโอฉบับเต็มจะเห็นได้ว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีปัญหาต่อการสื่อสารภาษาอังกฤษ สามารถพูดคุยกับผู้นำหลายๆ ท่านได้อย่างสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม ตนจำเป็นต้องขอชี้แจงเพื่อไม่ให้ประชาชนสับสนและเกิดเป็นความเข้าใจต่อท่านนายกรัฐมนตรี และขอฝากเตือนถึงกลุ่มที่พยายามบิดเบือนและโจมตีนายกรัฐมนตรีด้วยว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ขอให้ยุติการกระทำที่ส่งผลเสียต่อผู้อื่นด้วย

ทั้งนี้ความเห็นของนาย ธนกร ตรงกับของสำนักข่าว AFP สำนักข่าวฝรั่งเศสที่ระบุว่า ในภาพถ่ายต้นฉบับที่ไม่ตัดภาพผู้นำท่านอื่นๆ ออก ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ไม่ใช่ผู้นำเพียงคนเดียวที่ไม่ยกมือคือ จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ และแคนาดาคนแรก รัฐมนตรีจัสติน ทรูโด และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน

‘รัศมิ์’ ทูตชื่อดังฉะ ‘ดอน’ หลังมีข่าว ไทยบริจาควัคซีนเมียนมา

อดีตทูตชื่อดัง ออกโรงฉะ ‘ดอน’ หลังมีข่าวเดินทาง ไปเมียนมา ถามทำไมต้องทำตัวลับๆล่อๆ พร้อมฉะ ไทยบริจาควัคซีนเมียนมา ยื่นวัคซีนให้รัฐบาลฆ่าประชาชน รัศมิ์ ชาลีจันทร์ อดีตทูตชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยการแชร์ข่าวผ่านสำนักข่าว The Thaiger ถึงกรณีที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เดินทางประเทศเมียนมา และได้มีการเข้าพบ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย พร้อมเข้าร่วมพิธีบริจาควัคซีนที่ไทยมอบให้เมียมา

โดยข้อความระบุว่า “ทำไมต้องแอบไปพม่าแบบลับๆล่อๆด้วยครับ?

ว่าจะไม่อยากพูดถึงแล้วแม้จะรู้มาก่อนว่าจะมีการไปเยือนพม่าโดยบุคคลระดับรองนายกรัฐมนตรีของไทยเมื่อวันที่ 15 พ.ย. นี้เพราะเห็นทำเป็นเรื่องลับๆล่อๆไม่บอกใคร ก็เลยไม่อยากไปยุ่งด้วย แต่พอเห็นเนื้อข่าวจากสื่อของทางฝั่งพม่าก็คิดว่าเรื่องนี้มันควรเป็นเรื่องที่สาธารณะชนควรได้รับรู้

จริงอยู่ในอดีตเรื่องทางการทูตหลายเรื่องมักปกปิดเป็นความลับ การเจรจาที่ไม่เปิดเผยให้สาธารณชนได้ทราบ ซึ่งมันก็มีข้อดีในแง่การรักษาแต้มต่อในการเจรจา แต่ทุกวันนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ปัจจุบันการดำเนินการทางการทูตจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ซึ่งก็คือประชาชนเจ้าของประเทศมากขึ้นทุกขณะ แม้อาจจะไม่ต้องเปิดเผยทั้งหมดแต่อย่างน้อยต้องอธิบายได้ในเชิงหลักการว่าทำไปเพราะเหตุใด

ในเนื้อข่าวที่ปรากฎในสื่อของพม่าที่แนบมานี้มีระบุด้วยว่าฝ่ายไทยไปบริจาคมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ให้กับพม่าด้วย ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าสาธารณชนไทยควรมีสิทธิที่จะรู้ว่าฝ่ายไทยเอาวัคซีนจำนวนเท่าใดและชนิดใดไปมอบให้ฝ่ายพม่านะครับ เพราะมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับชีวิตของประชาชนไทย และเหตุผลว่าทำไมเราต้องเอาไปให้ทหารพม่า เพราะก็รู้กันอยู่ว่ารัฐบาลทหารพม่าที่เข่นฆ่าประชาชนตนเองทุกเมื่อเชื่อวัน คงไม่น่าจะมีแก่ใจจะเอาวัคซีนเหล่านี้ไปช่วยเหลือชาวพม่า

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า